บทบาทของนายพลสุไลมานี ในการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ตะวันออกกลางหรือภูมิภาคเอเชียตะวันตก ถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากทางยุทธศาสตร์ด้าน สันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพ มิใช่เฉพาะกับประเทศและประชาชนในภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังถือว่ามีความสำคัญต่อโลกอีกด้วย ขณะที่ในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ชาติมหาอำนาจต่างต้องการที่จะครอบงำและเข้ามาแทรกแซงภูมิภาคนี้มาโดยตลอด ซึ่งผลที่ได้รับจากการเกิดความไม่มั่นคง ความรุนแรง และสงครามกลางเมือง ล้วนมาจากการปรากฏตัวและการแทรกแซงของประเทศต่างๆที่ไม่ได้อยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งสิ้น
สหรัฐและอิสราเอลได้วางแผนการ ที่เรียกมันว่า “แผนการตะวันออกกลางใหญ่” ด้วยความร่วมมือของประเทศชาติยุโรปบางประเทศและประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะทำให้ซีเรียและอิรัก ได้ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ แต่ปัจจัยสำคัญที่สามารถยับยั้งไม่ให้แผนการนี้เกิดขึ้น ก็คือ การปรากฏตัวของนายพล กอซิม สุไลมานี และกองกำลังกุดส์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เพื่อป้องกันดินแดนและภูมิประเทศทั้งหมดของประเทศเหล่านี้ไม่ให้เกิดการแตกแยกเป็นส่วนๆ
ถ้าหากว่า เราจะพูดถึงปัจจัยของการเกิดความมั่นคงและการมีเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง อันดับแรก เราก็จะต้องศึกษาในบุคลิกภาพของชะฮีด ฮัจญ์ กอซิม สุไลมานี โดยจะกล่าวได้ว่า เขานั้นมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในประเทศต่างๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง
การปรากฏตัวของกองกำลังต่างชาติโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 11 กันยายน ปี 2001 ได้ทำให้ยุทธศาสตร์ของภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงด้วยกับการบุกเข้าโจมตีและการยึดครองโดยตรงในอิรัก และอัฟกานิสถาน แต่พวกสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตรของเขาก็ไม่สามารถบรรลุสู่เป้าหมายของตนได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส ให้เกิดขึ้นมา และการให้การสนับสนุนในทุกด้านกับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว เพื่อทำให้ภูมิภาคเกิดความไม่มั่นคงและยังเป็นการถอนรากถอนโคนรัฐบาลต่างๆที่ขัดแย้งกับนโยบายของพวกเขา ในขณะเดียวกันนี้ ชะฮีดสุไลมานี ในฐานะผู้บัญชาการระดับสูงของฝ่ายการต้านทานและการยืนหยัดต่อสู้ ได้ทำการปกป้องอำนาจอนาธิปไตยของประเทศทั้งหลาย ด้วยการเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้
ฮัจญ์ กอซิม ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่ในอิรักและซีเรีย ได้หมดหนทางในการป้องกันทางทหาร พร้อมทั้งบรรดานักต่อสู้ในฝ่ายการต้านทานได้เข้ามาเป็นแนวหน้าในสมรภูมิรบ ในขณะเดียวกัน กลุ่มไอซิส กำลังคืบคลานเข้ามาถึงยังกรุงแบกแดดในอิรักและกรุงดามัสกัสของซีเรีย เขาได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมและการจัดการอย่างถูกต้องโดยที่ไม่ทำให้รัฐบาลของประเทศทั้งสองต้องล่มสลาย
นอกเหนือจากนี้ การปรากฏตัวอย่างมีประสิทธิภาพของฮัจญ์ กอซิม ทั้งในอิรักและซีเรีย โดยถือว่า ปัญหาปาเลสไตน์และการปลดปล่อยปาเลสไตน์นั้นเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นหลักการและบรรทัดฐานที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงของสาธารณรัฐอิสลาม ด้วยเหตุนี้ ชะฮีดสุไลมานี จึงได้เข้าร่วมมาโดยตลอดในการต่อสู้กับอิสราเอล ทั้งในประเทศเลบานอนและปาเลสไตน์ ด้วยการสนับสนุนบรรดานักสู้ในปาเลสไตน์ในการเผชิญหน้ากับการดำเนินการของอิสราเอล และการสนับสนุนต่ออุดมการณ์ในการปลดปล่อยแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้ให้เป็นอิสระ
ชะฮีด สุไลมานี ด้วยกับการจัดตั้งกลุ่มเล็กต่างๆของพลเรือนในภูมิภาคนี้ จนสามารถทำให้เกิดคลื่นความเคลื่อนไหวในฝ่ายการต้านทาน ด้วยการมีวิสัยทัศน์แห่งเอกภาพในการเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆในภูมิภาค เช่น กองกำลังฮัชด์อัชชะอ์บีในอิรัก กลุ่มฟาฏิมียูนในอัฟกานิสถาน และกลุ่มฮัยดะรียูนในปากีสถาน
การดำเนินการและการจัดการของชะฮีดสุไลมานี ในฐานะผู้บัญชาการระดับสูงของฝ่ายการต้านทาน เป็นเหตุทำให้กลุ่มไอซิสและเหล่าปัจจัยต่างๆที่สร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาคนี้นั้นไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายของตนได้ ขนาดที่พวกสหรัฐได้พบกับความล้มเหลว จนเป็นเหตุให้พวกเหล่านี้ต้องมีปฏิบัติการในการลอบสังหารชะฮีดสุไลมานี ในการเดินทางเยือนอิรักอย่างเป็นทางการ โดยพวกเหล่านี้ต่างคิดว่า การกำจัดชะฮีดสุไลมานีให้ออกจากเวทีแห่งการต่อสู้ จะทำให้พวกเขาไม่ต้องพบกับความล้มเหลวอีกต่อไป พวกเขาจึงได้ดำเนินการชั่วร้ายนั้น
แม้ว่า พวกสหรัฐสามารถลอบสังหารนายพลสุไลมานีและผู้ติดตามเขาได้ก็จริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับขัดแย้งกับความคิดของรัฐบาลกรุงวอชิงตันอย่างสิ้นเชิง เพราะว่ามันไม่ได้สร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นในประเทศอิรัก ในภูมิภาคนี้ ทั้งยังเป็นการทำให้เกิดกระแสในการขับไล่กองกำลังทหารสหรัฐให้ออกไปจากภูมิภาคอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการล้างแค้นให้กับเลือดของบรรดาชะฮีดแห่งการยืนหยัด และจะทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันตกพบกับความมั่นคง หากว่าทหารทั้งหมดของสหรัฐได้ออกไปจากภูมิภาคนี้.